Friday, September 9, 2011

ปีใหม่..ไป (กิน) Hong Kong

หยุดยาวขึ้นปีใหม่ ปี 2011 ลูกๆและหลานๆที่น่ารักพาแม่ไปกินอาหารอร่อยๆรับลมหนาวที่ฮ่องกงด้วย Package Tour 4 วัน 3 คืน (Air-Transfer-Hotel) ที่ซื้อผ่าน Six Stars Travel เจ้าเก่า ไปช่วงปีใหม่นี่ราคาแพงกว่าปกติตั้งเป็นหมื่นเรย เสียดายเงินเหมือนกัลล..


เราเดินทางโดยสายการบิน Cathey Pacific โดยเลือกบินไป Flight เช้าตรู่ และบินกลับเที่ยวสุดท้าย กะอยู่ฮ่องกงให้คุ้ม (ซึ่งพบว่ามันดึกเกินไป เพราะกว่าจะออกจากฮ่องกงก็สี่ทุ่มครึ่งเข้าไปแล้ว ถึงกรุงเทพกว่าจะผ่านตรวจคนเข้าเมือง กว่าจะรับกระเป๋า กลับบ้าน อาบน้ำนอน ซัดเข้าไปตีสองตีสาม และ Travel Agency ก็ส่งรถ Bus มารับเราที่โรงแรมตั้งแต่ประมาณ 5 โมงเย็นแล้ว ไปนั่งเล่นนั่งกินอาหารเย็นกันที่ Airport – ถ้ากลับเร็วกว่านี้จะได้กินอาหารเย็นบนเครื่องบินไปเลย ประหยัดไปได้มื้อนึงด้วย ฮิๆ)
อาหารเช้าในเครื่องบิน (eco class น่ะจ่ะ) มีให้เลือก 2 อย่าง

คราวนี้เราเลือกพักที่ Marco Polo Gateway Hotel ฝั่ง Kowloon – ซึ่งโจจะทำหน้าเหยียดหยาม บอกว่าต้องพักฝั่งฮ่องกงถึงจะกิ๊บเก๋ แต่เราชอบอ่ะ มี Shopping Mall อยู่ตึกเดียวกะโรงแรม เดินลงมาเจอ Starbucks อยู่ข้างโรงแรม เดินเลยไปทาง Star Ferry ก็มี Egg Tart แสนอร่อย
หรือแค่ข้ามถนนก็ได้กิน Taiwan Beef Noodle กับ Sweet Dynasty แล้ว
และไม่ไกลมีสถานี MRT – Tsim Tsa Shui ได้ซื้อ Mrs.Field's Cookies แถมระหว่างทางเดินจากโรงแรมไปสถานี MRT ผ่านทั้งร้านมะม่วงปั่น ชาไข่มุก น้ำส้มคั้นสด หมูแผ่น อร่อยเด็ดทั้งน๊าน ...ชอบๆๆ!
ภายในห้องพัก
ห้องน้ำดูเก่าหน่อย แต่ก็สะอาดสะอ้านดี

 สิ่งที่น่าจะเอาติดตัวไปจากเมืองไทยด้วย
  • ถุงผ้า สำหรับใส่ของที่ซื้อใน Supermarket หรือร้านแบบ Sasa, Manning, Watson’s ไม่งั้นต้องเสียค่าถุง ถุงละ 50 cents (หลายถุงก็หลายบาทอยู่)
  • ถุง Zip Lock (ชอบพกไปเที่ยวด้วย เผื่อมีขนมกินเหลือจะได้ใส่ถุงไว้กินต่อ)
  • มีดปอกผลไม้ (กรณีชอบกินผลไม้)
  • น้ำดื่ม ขาไปกระเป๋ายังว่าง ติดน้ำไปมั่งก็ได้ ที่ฮ่องกงน้ำแพงชะมัด แถมต้องเดินแบกน้ำกลับโรงแรมหนักด้วย

ของโปรดพวกเรา

  • นม Chocolate ที่ City Super (ข้าวของที่นี่แพงจริงๆ น้ำเปล่าธรรมดาไม่มีขาย มีแต่น้ำแร่ Spring water ขวดถูกสุดก็สิบกว่าเหรียญ ขนมก็แพง ไปซื้อที่ 7-11 ถูกกว่า)

  • Egg Tart - ดีใจ ร้าน Tai Cheong เจ้าโปรดของพวกเรา มีสาขาที่ท่าเรือ Star Ferry ข้ามฟากข้าง Ocean Terminal แล้ว ไม่ต้องไปซื้อถึงฝั่งฮ่องกง คนไม่เยอะด้วย ถ้าไปซื้อตอนที่เค้าเพิ่งอบเสร็จใหม่ๆ จะได้กลิ่นหอมฟุ้ง
คนเดินตามกลิ่น Egg Tart อบใหม่ๆมาที่หน้าร้าน

  • น้ำมะม่วงปั่น Hui Lau Chan พบร้านนี้ได้ตามริมถนนหนทางทั่วไป คอนเฟิร์มของเค้าอร่อยจริง!


  • น้ำส้ม Sunkiss คั้นสดๆร้านริมถนน – คราวนี้ไม่ได้กิน เพราะไปซื้อน้ำส้มกล่องของ Tropicana ใน City Super มากินแทน

  • Mrs. Field's Cookies - Soft Cookies แสนอร่อยที่ในเมืองไทยปิดตัวไปแล้ว ที่ฮ่องกงมีร้านเล็กๆอยู่ตามสถานี MRT มักมี Promotion ซื้อกี่ชิ้นๆแถม 1 ชิ้น อย่างนี้เป็นต้น

  • Taiwan Bubble Tea - ร้านอยู่ตามริมถนนเหมือนกัน อร่อยกว่าที่ซื้อกินที่เมืองไทย


  • หมูแผ่น Bee Cheng Hiang ซื้อกลับมาเมืองไทยเป็นของฝากแสนสะดวก เพราะเค้ามีชนิดแพ๊คสุญญากาศ เก็บได้นานเป็นเดือนๆ มีทั้งแบบแผ่นจิ๋วพอดีคำ และแบบแผ่นใหญ่กินได้หลายคำ ถ้าหมูแบบปิ้งใหม่ห่อกระดาษกลับมา จะเก็บได้ประมาณ 2 อาทิตย์ ถ้าจะเก็บนานกว่านั้น ต้องแช่ Freezer


ร้านอร่อย

วัตถุประสงค์ของการไปเที่ยวฮ่องกงอย่างนึงคือการหาของอร่อยๆกิน ครั้งนี้พวกเราก็ไปกินกันอยู่หลายร้าน เช่น
  • Taiwan Beef Noodle ร้านอยู่เยื้องๆกับโรงแรม Marco Polo สะดวกจริง (เดินเลยไปอีกหน่อยก็เป็นร้าน Sweet Dynasty) ร้านนี้อร่อยทุกอย่าง นั่งสบาย ราคาไม่แพง ก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋นน้ำซุปหอมเครื่องยาจีน

  • Tsui Wah Restaurant อยู่ตรงข้ามกับร้านห่านย่างชื่อดัง Yung Kee ฝั่งฮ่องกง (คือเราจะไปกินห่านย่างที่ Yung Kee แต่คนเต็ม เค้าบอกว่าต้องจองไปก่อน เลยต้องเดินมากินร้านนี้แทน) อาหารอร่อยใช้ได้เลย ร้านนี้เค้าขึ้นชื่อข้าวมันไก่ ขนมปังปิ้งกรอบนอกนุ่มใน(Crispy Bun with Condensed Milk) และ Milk Tea

  • เฉี่ยวฟะ ขายบะหมี่เกี๊ยว โจ๊ก ตับลวกแสนอร่อย (ฮ่องกงนี่ลวกตับเก๊งเก่ง ร้านไหนร้านนั้นอร่อยไปหม๊ด) หนังปลาทอดกรอบ ร้านนี้มีเมนูภาษาไทย คุณชายถนัดศรีและคุณลูกชายเคยมาชิมไว้ ร้านอยู่ละแวกใกล้โรงแรมที่เราพักอีกเช่นเคย ถนน Hankow Road ที่แยกจาก Haiphong Road
 


  • Fisherman Market บอกแท๊กซี่ให้ไป หลี่ หยู่ หมุ่น ที่เจ้าหลานชายชอบมาก เป็นแหล่งขายอาหารทะเลสดๆ (สงสัยไว้ขายนักท่องเที่ยว) มีอาหารสดให้เราเลือกชี้ (โหดหน่อย) แล้วบอกความประสงค์กับร้านอาหารที่เราเลือกนั่งว่าเราจะให้เค้าเอามาทำอะไร เราสั่งกั้งทอดกระเทียมพริกไทย ปลาเก๋านึ่งซีอิ๊ว หอยเป๋าฮื้อนึ่งซีอิ๊ว หอยหลอด(หลอดใหญ่ยาวมากผัดพริกตุ้มกับหอมใหญ่ แบบจีนๆ) หอยเชลล์อบวุ้นเส้น ข้าวผัดปลาเค็ม ผักราดน้ำมันหอย มีเครื่องดื่มเป็น Coke น้ำเปล่า และน้ำชา ...เท่านี้ล่ะค่ะ ราคา 2,700 HKD !!!  เมืองไทยกินได้ในราคาถูกกว่านี้แน่นอน
กั้งทอดกระเทียมพริกไทย
เป่าฮื้อนึ่งซีอิ๊ว
หอยเชลล์อบวุ้นเส้น
    หอยหลอดผัดพริกตุ่ม
    ปลาเก๋านึ่งซีอิ๊ว

  • Starbucks Coffee ที่ฮ่องกงนี่มีขนมหน้าตาดีๆเยอะกว่าที่กรุงเทพ อร่อยๆ



  • Food Republic เป็น Food Court ที่มีอยู่หลายสาขาทั้งฝั่งเกาลูนและฮ่องกง มีอาหารอร่อยให้เลือกหลากหลายในราคาสบายกระเป๋า
 


การแสดง Symphony of Light
ต้องไปยืนใกล้ๆหอนาฬิกา เพราะเรายืนอยู่ตรงริมฟุตบาทแถวท่าจอดรถเมล์ ซึ่งก็ใกล้มากแล้วนะ แต่ไม่ได้ยินเสียงเพลงเลย นึกว่าตึกที่ร่วมแสดงเค้าทดลองเปิดไฟ จนอีกนาทีเดียวจะจบการแสดง ลองเดินเข้าไปทางริมน้ำอีก เพิ่งจะได้ยินเสียงเพลง แล้วก็มีเสียงพูด thank you ที่มาดูการแสดง อ่าว! จบซะแระ



Ngong Ping 360
เด็กๆชอบกันที่ได้ไปนั่ง cable car แบบ crystal clear cabin พื้นเป็นกระจกใสมองเห็นผืนน้ำและพื้นดินด้านล่าง

แต่คราวหน้าถ้าจะไปอีก เราต้องเช็คทาง Internet ว่าเค้ามีให้จองทาง internet รึเปล่า(คิดว่ามี) เพราะว่าคิวเข้าแถวซื้อตั๋ว cable car ยาวมากกกกก.. เลื้อยเป็นงูขดไปขดมา สงสารแม่ยืนเมื่อยเลย ต้องขอให้เจ้าหน้าที่ช่วยอนุญาตให้แม่ไปนั่งรอระหว่างที่พวกเราต้องเข้าแถวรอซื้อตั๋ว ไม่งั้นคุณยายยืนขาบวมแน่ๆ

แถว crystal cabin คิวจะสั้นกว่า cable car แบบปกติ เพราะว่าราคาค่าโดยสารต่างกัน เอาแบบ crystal clear นี่แหล่ะ หนุกดี ได้เห็นวิวด้านล่าง

ทุกตู้ cabin จะมีคนถ่ายรูปผู้โดยสารกลุ่มใครกลุ่มมัน พอถึงสถานี cable car ปลายทาง ก็มีรูปเราอัดใส่กรอบ ทำเป็นพวงกุญแจไว้เรียบร้อย ขายชุดละ 100 กว่าเหรียญ แม่เห็นรูปแล้ว บอกให้พวกเราซื้อ แม่ชอบบอกว่าสวยดี อยากได้เป็นที่ระลึก (แต่มาถึงกรุงเทพ ไม่รู้เอาเก็บไว้ที่ไหนอีกแล้ว 555)

นั่ง Cable Car ประมาณ 20-25 นาที ก็ถึงสถานีปลายทางที่มีพระใหญ่

ออกจากสถานี Cable Car จะเจอกับหมู่บ้าน Ngong Ping มีร้านขายอาหาร ของที่ระลึก ร้านกาแฟ พวกเราเลือกกินร้าน Pizza แบบบริการตนเอง อยู่ปากทางเข้าหมู่บ้านเลย คนน้อยดี นั่งสบายๆ นั่งได้นานด้วย


ไม่มีใครยอมเดินไปไหว้พระใหญ่เลย หลานๆก็ไม่ยอมเดิน  หลังจากที่รู้ว่าต้องเดินไปสุดหมู่บ้าน แล้วจะมีทางแยกไปพระใหญ่ และต้องขึ้นบันไดอีกสองร้อยกว่าขั้น (ถ้าต้องการขึ้นไปเดินด้านบนฐานพระใหญ่ ต้องซื้อตั๋ว Vegetarian Food ด้วย มีขายหน้าปากทางขึ้น)
ทางขึ้นพระใหญ่
รูปปั้นรอบๆองค์พระใหญ่
ประตูสีสวยดี
ขากลับจากพระใหญ่ ขอแวะ CityGate Outlet Mall หน้า MRT Station นี๊ดนึง ได้รองเท้า Crocs ในราคา 400 บาท กับเสื้อยืด Giordano ตัวละไม่กี่ตังค์ จะดูอย่างอื่นต่อคุณนายพี่กะคุณนายหลานยืนทำหน้าเหม็นเบื่อ อยากจะออกจากที่นี่เต็มทน เราเลยต้องกลับด้วย
 
IKEA
มาฮ่องกงทีไร ต้องหาโอกาสไปเดิน IKEA ไม่ได้ซื้ออะไร แค่เดินเฉยๆก็สนุกดี (ต้องขอ Catalog เค้าติดมือกลับมาด้วย) หวังว่าปลายปี 2011 ที่ IKEA จะมาเปิดเมืองไทย ของคงราคาไม่แพงนะ (แต่มันอยู่ไกลจังตั้งบางนา จะเดินทางไปสะดวกมั้ยเนี่ย)
ตัวอย่างห้องนอนใน IKEA
ฝั่งฮ่องกง มีสาขาที่ชั้นใต้ดิน Park Lane Hotel อยู่ไม่ไกลจาก SOGO Department Store

Count Down หน้าโรงแรม
อุตส่าห์มาฮ่องกงช่วงปีใหม่ทั้งที ต้องลองดูคนที่นี่เค้า Count Down กันซะหน่อย
ต้น Christmas ประดับด้วยคริสตัล Swarovski กว่า 20 ล้านชิ้น!
ตั้งอยู่ที่ Statue Square เขต Central ฝั่งฮ่องกง
ทุกๆ 30 นาทีจะมี Music & Light show ด้วย

ที่ถนน Canton หน้าโรงแรม Marco Polo เค้ามีปิดถนน อากาศหนาวเย็นดี คนมายืนรอ Count Down กันเต๊มมม.. เพราะว่าเค้าจะมีจุดพลุที่ยอดตึกอะไรไม่รู้ มองไปทางหอนาฬิกาท่าเรือ Ferry น่ะ คงจะเป็นตึกฝั่ง Hong Kong ละมัง(ยอดแหลมๆที่โผล่มานิดนึงในรูป)
ผิดหวังมาก ตรงถนนนี้ไม่ได้ยินเสียง Celebration อะไรเลย คนก็แน่นเชียว ตอนจุดพลุก็เห็นพลุที่โผล่พ้นยอดตึกนิดๆหน่อย คนก็ส่งเสียงเฮๆ ..ไปนอนดีกว่า..
บรรยากาศบน Canton Road
ประดับไฟสวยมากที่ 1881 Heritage ต้นถนน Canton

บ่ายวันรุ่งขึ้น พยากรณ์อากาศว่า Fine & Dry  ถนน Canton ปิดการจราจรอีกครึ่งวัน มีการเชิดสิงโตจำนวน 1,111 ตัว เป็นสถิติจำนวนสิงโตมากที่สุด



มาเที่ยวฮ่องกงครั้งนี้ สนุกและอร่อยเหมือนทุกครั้ง ต้องกลับไปเก็บตังค์แล้วพาแม่มาเที่ยวใหม่... ^_^

No comments: